สพป.มหาสารคาม เขต 3 สร้างพลังประชารัฐจากพลังเยาวชนผ่านกลไก “สภานักเรียน” โดยมีโรงเรียนบ้านหนองซอน ต้นแบบสภานักเรียนระดับประเทศ ที่สร้างตำนานโรงเรียนกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ ลงนามร่วมมือเสริมสร้างเครือข่าย เป็นวิทยากรพี่เลี้ยง ขยายเครือข่ายให้โรงเรียนในสังกัดครบ 100 %
วันที่ 31 กรกฎาคม 2559 เวลา 09.00 น. ที่หอประชุมพระมิ่งเมือง สพป.มหาสารคาม เขต 3 นายสมพงษ์ โรจน์ภัทรพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 3 เป็นประธานเปิดการอบรมโครงการพัฒนางานสภานักเรียน ประจำปี 2559 ให้กับโรงเรียนในสังกัด รวมทั้งสิ้น 147 โรงเรียน โดยมี นายเกษม จันสามารถ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองซอน นำคณะกรรมการสภานักเรียน ต้นแบบสภานักเรียนระดับประเทศเป็นพี่เลี้ยงให้การอบรม และคอยช่วยเหลือแนะนำ นายสมเกียรติ บูรภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสำโรงหัวนาโนนจันทร์หอม นำคณะกรรมการสภานักเรียนระดับภาคมาเป็นผู้ช่วย ขยายผลเครือข่ายให้กับโรงเรียนในสังกัดครบทุกโรงเรียน
นายเกษม จันสามารถ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองซอน เปิดเผยว่า การอบรมครั้งนี้ เป็นการขยายผลเพื่อให้เกิดการลงมือปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล และ สพฐ. ที่ได้กำหนดให้กิจกรรมสภานักเรียนเป็นหนึ่งในจุดเน้นของทุกเขต โดยกลุ่มเป้าหมายคือครูผู้รับผิดชอบสภานักเรียน และตัวแทนคณะกรรมการสภานักเรียนมาเข้ารับการพัฒนา
กิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนของครูและส่วนของนักเรียน ประกอบด้วย การบรรยายให้ความรู้ตามแนวทางของกระทรวงศึกษาธิการ การสาธิตการเลือกตั้งและการปฏิบัติจริง โดยมีวิทยากรพิเศษ นายกังวาน จันทร์หนองสวง ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม บรรยายเรื่องการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมทั้งได้ให้เจ้าหน้าที่ หน่วยเลือกตั้งประจำจังหวัด นำเครื่องลงคะแนนแบบอิเลคทรอนิคส์ที่ใช้ในหน่วยเลือกตั้งจริง มาให้นักเรียนได้ใช้ในการเลือกตั้งประธานสภานักเรียน นักเรียนได้สัมผัส คุ้นเคย และมีประสบการณ์ตรง คุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้ง เป็นการปลูกฝังทัศนคติรักความเป็นประชาธิปไตย เมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่จะไม่กินไม่โกง ซึ่งประธานคณะกรรมการสภานักเรียน สพป.มหาสารคาม เขต 3 ที่ได้รับการเลือกตั้ง คือ เด็กหญิงจิรนันท์ วรโคตร นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนบ้านหนองซอน
นายเกษม จันสามารถ เปิดเผยต่อว่า เมื่อแล้วเสร็จการอบรมทุกโรงเรียนจะต้องกลับไปดำเนินการตามแนวทางของสภานักเรียนทั้งระบบ โดยจะมีคณะกรรมการติดตามประเมินผล เพื่อคัดหาตัวแทนเข้าแข่งขันในระดับต่าง ๆ โดยหัวใจหลักของสภานักเรียนคือ การมีคารวธรรม : เคารพซึ่งกันและกัน, สามัคคีธรรม : การทำงานเป็นหมู่คณะ และปัญญาธรรม : การใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต หากโรงเรียนได้นำไปฝึกเด็กอย่างจริงจังแล้ว จะเห็นคุณค่าของสภานักเรียนว่า เด็กจะมีความแตกต่างจากเด็กทั่วไป คือเขาจะมั่นใจในความเป็นผู้นำ เป็นผู้ตาม กล้าแสดงออก มีประสบการณ์ในการหาองค์ความรู้ รู้หน้าที่ สามัคคี มีวินัย และมีความรับผิดชอบ ดังคำที่นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติตอนหนึ่งว่า “การสร้างพลังประชารัฐจากพลังเยาชนผ่านกลไกสภานักเรียน มีประโยชน์ มีความก้าวหน้า และจะช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในอนาคต”
เกษม จันสามารถ: ภาพ/ข้อมูลข่าว
ทิพยฉัตร ฉัตรทอง นักประชาสัมพันธ์ : ข่าว