การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชายุวกาชาด หลักสูตรครูผู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด ณ ร.ร.ศรีโกสุมวิทยาฯ

การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชายุวกาชาด หลักสูตรครูผู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด

วันที่ 15 กรกฎาคม 2559 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมโกสัมพี  โรงเรียนศรีโกสุมวิทยามิตรภาพที่ 209 ดร.สายทอง ไตรยะวิภาค รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 3 ปฏิบัติหน้าที่แทนนายสมพงษ์ โรจน์ภัทรพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต 3 เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชายุวกาชาด หลักสูตรครูผู้สอนกิจกรรมยุวกาชาด ให้กับครูผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา จำนวน 42 คน เพื่อให้ผู้ผ่านการฝึกอบรมมีศรัทธาต่อกิจการยุวกาชาด มีความรู้ความเข้าใจในหลักสูตรและกระบวนการตามวัตถุประสงค์ของยุวกาชาดสากล และยุวกาชาดไทย ให้มีทักษะในการจัดกิจกรรมตามบทบาทหน้าที่ พร้อมทั้งเกิดแนวคิดนำไปสู่การจัดกิจกรรมให้แก่สมาชิกยุวกาชาดตามมาตรฐานสากลต่อไป  โดยมีนายประสิทธิ์ สีแข่ไตร ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีโกสุมวิทยามิตรภาพที่ 209 เป็นผู้อำนวยการฝึกอบรม  และวิทยากรเครือข่ายของสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ นางจีรภา จิตต์น้อม, นายสุรพล จิตต์น้อม, นางสาวสกุลวรา ชื่นค้า และคณะ รวมทั้งสิ้น 25 คน เป็นวิทยากรให้การฝึกอบรม

นายสุรพล จิตต์น้อม เปิดเผยว่า การฝึกอบรมครั้งนี้เป็นการฝึกอบรมแบบค่ายกลางวัน ใช้เทคนิคการฝึกอบรมแบบผสมผสานที่เน้นขบวนการกลุ่ม สร้างการมีส่วนร่วม การสาธิต การแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติ ฝึกการสังเกต การจดจำ การคิดวิเคราะห์ การวางแผน สร้างความสามัคคี มีวินัย และทดสอบรายบุคคล รายหน่วยตามเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับงบประมาณได้รับการสนับสนุนจากสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจการนักเรียน สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และค่าธรรมเนียมจากผู้เข้ารับการฝึกอบรม

ทางด้านนางสาวสกุลวรา ชื่นค้า วิทยากรฝึกอบรมเปิดเผยว่า ยุวกาชาดถือกำเนิดมาจากข้อเสนอของที่ประชุมสันนิบาตสภากาชาดเมื่อ พ.ศ. 2462 ว่า “สภากาชาดทุกชาติควรจัดตั้งกาชาดสำหรับเด็ก เพื่อฝึกอบรมเยาชนให้รู้จักการกินดี อยู่ดี รักษาสุขภาพอนามัย มีความเมตตาสงสารเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่ว่าชาติใด ๆ  มีศรัทธา เสียสละ ทำประโยชน์แก่สังคม โดยวิธีดำเนินการให้สอดคล้องกับระบบการศึกษาของแต่ละประเทศ” ทั้งนี้ โดยยุวกาชาดสากลมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมให้สมาชิกยุวกาชาด

1. มีอุดมคติในศานติสุข มีความรู้ ความชำนาญในเรื่องการรักษาอนามัยของตนเองและของผู้อื่น (Education for Peace)
2. รู้จักบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น (Good Service)
3. มีสัมพันธภาพอันดีกับบุคคลทั่วไป(International Friendship)

และจากข้อเสนอของจากข้อเสนอของสหพันธ์สภากาชาด ประเทศไทย โดยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต อุปนายกสภากาชาดสยาม ทรงมีพระดำริให้จัดตั้งขึ้น เช่นเดียวกับสภากาชาดประเทศต่าง ๆ  เพื่อเชิดชูเกียรติยศของบ้านเมืองในการดำเนินกิจการให้ทันสมัย  โดยการฝึกอบรมนักเรียนเช่นเดียวกับนานาประเทศ  กิจการยุวกาชาดจึงได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2465 ในระยะแรกเรียกว่า “อนุสภากาชาดสยาม”  และเนื่องจากกิจการอนุสภากาชาดสยามเกี่ยวข้องกับเยาวชนและการศึกษา  จึงมอบให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการจัดทำหลักสูตรเพื่อฝึกอบรมเยาวชนในโรงเรียน  ซึ่งโรงเรียนราชินีเป็นแห่งแรกที่ตั้งหน่วยอนุสภากาชาด  กิจการยุวกาชาดอยู่ในความดูแลของกองอนุกาชาด กรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

จากนั้น ใน พ.ศ. 2521  มีการขยายกิจกรรมให้กว้างขวางครอบคลุมถึงเยาวชนที่มีอายุ 7-25 ปี  และสอดคล้องกับประเทศต่าง ๆ จึงเปลี่ยนจากอนุกาชาด เป็นยุวกาชาด  ต่อมา พ.ศ. 2546 มีการปฏิรูประบบราชการ  กองยุวกาชาด กองการลูกเสือ กองสารวัตรนักเรียน  ยกฐานะเป็น  สำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ  โดยประสานความร่วมมือกับสำนักงานยุวกาชาด สภากาชาดไทย

สำหรับหลักสูตรกิจกรรมยุวกาชาดมีการพัฒนามาเป็นระยะ ๆ  ปัจจุบันใช้ “หลักสูตรกิจกรรมยุวกาชาดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551”

ส่วนนายประสิทธิ์ สีแข่ไตร ผู้อำนวยการฝึกอบรมได้กล่าวถึงกิจกรรมยุวกาชาดว่า  เป็นกิจกรรมที่มีบทบาทต่อการพัฒนาเยาวชนให้เป็นพลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รู้จักการรักษาอนามัยของตนเองและผู้อื่น รู้จักบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ซึ่งการอบรมครั้งนี้ต้องการให้ผู้เข้าอบรม  สามารถถอดแบบกิจกรรมคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของกระทรวงศึกษาธิการ  ที่ให้ความสำคัญกับการยกระดับความรู้สู่มาตรฐานสากล ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีคุณธรรม จริยธรรม วินัย อุดมการณ์ ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การมีจิตสาธารณะ โดยตระหนักถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน โดยผ่านกระบวนการลูกเสือและยุวกาชาด

ทิพยฉัตร  ฉัตรทอง  นักประชาสัมพันธ์ : ภาพ/ข่าว
สกุลวรา ชื่นค้า :  เครดิตข้อมูล
สพฐ. http://www1.obec.go.th:8081/news/72745
สามารถชมภาพเพิ่มเติมได้ที่  https://www.facebook.com/media/set/?set=oa.1752193118383593&type=1

1 2
ดร.สายทอง ไตรยะวิภาค รอง ผอ.สพป.มหาสารคาม เขต 3, นายประสิทธิ์ สีแข่ไตร ผอ.ร.ร.ศรีโกสุมวิทยามิตรภาพที่ 209
3 4 ผอ (2)_resize
นายสุรพล จิตต์น้อม
4 5 6 conten (7) 6 content (1) 6 content (2) 6 content (3) 6 content (4) 6 content (5) 6 content (6) 6 content (8) 6 content (15) 6 content (16) 6 content (17) 6 content (18) 6 content (19) 6 content (20) 6 content (21) 6 content (22) 7 (1) 7 (2) 8 กิจกรรม เลือก (1) 8 กิจกรรม เลือก (2) 8 กิจกรรม เลือก (3) 8 กิจกรรม เลือก (4) 9 กิจกรรม (1) 9 กิจกรรม (2) รูปถ่ายหมู่ (1)_resize รูปถ่ายหมู่ (2)_resize รูปถ่ายหมู่ (3)_resize รูปถ่ายหมู่ (4)_resize รูปถ่ายหมู่ (5)_resize รูปถ่ายหมู่ (6)_resize